เริ่มทำการตลาดออนไลน์ อย่างไรดี

วิธีเริ่มทำการตลาดออนไลน์ หรือ Digital Marketing มีได้หลากหลายวิธีค่ะ

เช่น การทำการโฆษณาในเฟสบุ๊ค และ หรือการทำโฆษณาลง Google Adwords
แต่ก่อนอื่น ก่อนจะทำโฆษณา ขอแนะนำขั้นตอนแบบเริ่มต้นให้ก่อน หลังจากอ่านขั้นตอนแล้ว อาจไม่ต้องเสียเงินโฆษณามากๆก็ได้ ลองอ่านกันเลยค่ะ

1. สิ่งแรกที่เราควรจะมีก็คือ Website หรือ Blog
เพราะ เว็บไซต์จะเป็นที่ที่มั่นคง อยู่ต่อไปตราบนานเท่าที่เราจ่ายเงินค่า Domain และค่า Hosting
บางธุรกิจมีแค่ Facebook fanpage อย่างเดียว มันจะไม่พอ เพราะความมั่นคงในตัวเฟสบุ๊คนั้นน้อยกว่า เช่น ตัวเฟสบุ๊คเองก็มีการปรับระบบบ่อยมาก ทำให้เวลาเราโพสต์ การเข้าถึงก็น้อยลง การยิงแอทโฆษณาเองก็แพงมาก แล้วเฟสบุ๊คก็มีนโยบายการโพสต์ต่างๆ เยอะแยะมากมาย บางทีเราโพสต์ไม่ถูกคำพูด ก็อาจจะโดนปิดเพจได้

เห็นไหมคะ ว่า เว็บไซต์ ของเรานั้นสำคัญมากขนาดไหน และปัจจุบันการทำเว็บไซต์ใช้เงินแค่หลักพันต้นๆก็เป็นเจ้าของได้ และการทำเว็บไม่ยากด้วย ได้แก่พวกเว็บไซต์สำเร็จรูปต่างๆ ใช้ง่ายมาก และมีคนคอยตอบคำถาม แก้ปัญหาให้เราเวลาเราทำอะไรไม่เป็น เว็บสำเร็จรูปต่างๆใช้ง่ายๆ เช่น iGetWeb.com, weloveshopping.com, Sellsuki.co.th, และอื่นๆ ลองไปใช้งานแบบฟรีของเขาดู อันไหนเราถูกใจก็ค่อยจ่ายเงินเป็นรายปีก็ได้คะ มีแพ็คเกจดีๆไม่แพงให้เราเลือกด้วยนะคะ

ส่วน blog แนะนำเป็น blogger.com ก็คือ บล็อคนี้ที่ทุกคนอ่านกันอยู่เลยค่ะ ไม่เสียเงิน และการติดคำ SEO ก็สามารถทำได้ง่ายๆค่ะ การใช้งานก็แสนง่ายเพียงแค่มี gmail ก็ใช้ได้ ลองถูกลองผิดทำดูค่ะ

2. ควรจะทำ Facebook Fanpage เพราะฟรี และเป็นวิธีนึงที่เราจะแชร์ให้คนเห็น เจอะเจอธุรกิจของเราได้ แบบฟรี และหากอยากให้คนเห็นมากก็สามารถยิงแอท ให้คนเห็น ให้คนซื้อสินค้าได้ มีพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์หลายพันคนรวย ถึงรวยมากจากการขายของออนไลน์กันให้เห็นเยอะเลยค่ะ

เฟสบุ๊คจะช่วยให้ลูกค้ารู้จักเรา แต่ในเฟสบุ๊คก็ควรจะมีรายละเอียดการติดต่อเราไว้ด้วย เช่น เบอร์โทร ไลน์ ฯลฯ รวมถึง ระบุเว็บไซต์ของเรา ลิงค์ไปที่เว็บไซต์ ก็จะช่วยให้คนเข้าไปที่เว็บเรา และเราสามารถให้รายละเอียดสินค้าที่มากๆ และครบถ้วนในเว็บเราได้

3. เขียนหรือว่าทำ Content
เมื่อเรามีบ้านของเรา อันได้แก่ website และมีที่พักชั่วคราวคือ เฟสบุ๊คแฟนเพจแล้ว เราก็ควรจะทำการส่งสาร หรือข้อมูลสินค้าของเราที่ต้องการจะขายให้กับลูกค้า โดยทำ Content หรือ เรียกแบบบ้านๆว่า สาร หรือข้อมูล ซึ่งปัจจุบันเรามี content ให้เสพ เยอะกว่าเวลาที่เราจะมีเสพ ดังนั้นการทำ content ให้ดี ให้ดึงดูดให้คนอ่าน ที่สำคัญคือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมาอ่าน นั่นก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะปิดการขายได้มากกว่า

content ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ตัวหนังสือให้คนอ่าน แต่ content สามารถเป็นได้ทั้ง VDO, infographic, รูปภาพต่างๆ ก็ได้ค่ะ

คอนเท้นท์ที่ดี ต้องมี call to action ตอนจบด้วยนะคะ คนอ่าน หรือคนชมจะได้รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป

เอาล่ะคะ วันนี้แค่นี้ก่อน หากให้พูดอธิบาย ขยายความทุกหัวข้อก็จะยาวมากๆเลย ไว้พี่ป้อจะมาอธิบายทีละเรื่องทีละตอนต่อไปนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามพี่ป้อ แล้วหากข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ก็อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆกันด้วยนะคะ
นอกจากจะช่วยเพื่อนๆแล้วยังเป็นกำลังใจให้พี่ป้อเขียนเรื่องราวดีๆได้ต่อๆไปเลยค่ะ

ดร. ป้อ

อีกเพจที่พี่ป้อชอบเขียน เกี่ยวกับความสวยงาม สุขภาพดี ลองไปอ่านกันนะคะ
เพจสวย สุขภาพดี by ดร.ป้อ
https://www.facebook.com/Dr.Por.Apiradee

ขายของออนไลน์รวยร้อยล้าน

ขายของออนไลน์ ก็รวยเป็นร้อยล้านได้ อะไรล่ะเป็นปัจจัยสำคัญ วันนี้มาดูกันคร่าวๆก่อนนะคะ

1. เราต้องเลือกสินค้าให้ดี ให้อยู่ในตลาดที่ใหญ่พอที่จะทำการตลาด เพราะสินค้าเราจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น โอกาสในการขายก็มากขึ้น

2. วางแผนการตลาด เช่น จะทำการตลาดยังไง จะเน้นสินค้าตัวไหน สินค้าตัวนั้นดีอย่างไร คาดการว่าจะขายได้เท่าไร กำหนดเป้าหมาย และวิธีการทำการตลาด โดยการเขียนแผนการตลาด และแผนสำรองเผื่อไว้อีกสัก 1 แผน เผื่อแผนแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็งัดแผนสองออกมาใช้

3. เราต้องวางแผนต่อว่าจะทำการตลาดทางออนไลน์ โดยเริ่มจากการตั้งชื่อเว็บ ชื่อเพจ ชื่อไลน์แอท ให้ลูกค้าค้นหาเราเจอ และจดจำเราได้ อาจเป็นการใช้ชื่อแบรนด์ แล้วเพิ่มด้วยคีย์เวิร์ดลงไป

เช่น สมมติแบรนด์เราชื่อ Kookik ซึ่งเราขาย อาหารเสริม เราก็อาจตั้งชื่อ เป็น เพจชื่อ Kookik อาหารเสริม แบบนี้ก็ได้ค่ะ เวลาลูกค้า search หาอาหารเสริม อย่างน้อยก็จะเจอเพจเรา
หรือ จะระบุให้ลึกกว่านั้น เช่น Kookik อาหารเสริมลดน้ำหนัก แบบนี้ก็จะยิ่งหาได้ง่ายกว่าค่ะ

3. จากนั้น เราก็ควรดูแลเพจ เว็บไซต์ต่างๆของเราให้ดีให้เป็นไปตามแผนการตลาด ซึ่งต้องมีการสื่อสารที่ดีออกไปหาลูกค้าเป้าหมายของเรา ดังนั้นต้องทำการเขียนคอนเท้นท์ต่างๆเพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการเข้ามาอ่าน แล้วเขาพบว่าสินค้าเราตอบโจทย์ของเขาได้ เขาก็จะซื้อสินค้าของเราค่ะ


วันนี้เอาแบบคร่าวๆก่อนนะคะ ยังมีกลยุทธ์ดีๆอีกเยอะ และปัจจัยต่างๆก็ยังมีอีกที่ทำให้เราขายสินค้าออนไลน์ได้เงิน ไว้พี่ป้อจะมาเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ

พี่ป้อ

ธุรกิจควรมีไลน์แอทไหม ?

ธุรกิจควรมีไลน์แอทไหม ?

การมีไลน์แอท (Line@) ไม่ใช่เรื่องยาก แถมมีแบบฟรี และถ้าจะจ่ายเงินบ้างก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ดังนั้นธุรกิจควรจะมีไลน์แอท ไว้สำหรับรับฟังสิ่งที่ลูกค้าต้องการบ้างค่ะ โดยเฉพาะธุรกิจเล็กๆ และ SMEs ควรจะมีไลน์แอทค่ะ

ไลน์แอท Line@ มีประโยชน์อย่างไร

- ให้ลูกค้าติดต่อเราได้ พูดคุย สอบถามเราได้
- ให้เราตอบคำถามลูกค้าได้
- ให้เราขายสินค้าได้กับทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่
- ให้เราสามารถแจ้งข่าวสาร และโปรโมชั่นต่างๆให้กับลูกค้าจำนวนมากๆได้ในคราวเดียวกัน
- ให้บริษัทไม่ต้องทำงานด้วยเพียงพนักงานคนเดียว แต่สามารถทำงานได้หลายๆคนพร้อมกันเพราะ       Line@ สามารถแต่งตั้งจำนวน Admin ดูแลเพิ่มได้มากกว่า 1 คน
- และอื่นๆ ที่ฟังค์ชั่นในไลน์แอททำได้ เช่น Pole and survey, coupon, broadcast เป็น text, รูปภาพ, VDO, จับฉลาก ฯลฯ

ไลน์แอทมีไว้สำหรับดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด หรือไว้ตอบเรื่องการขายสินค้า แจ้งโปรโมชั่น จัดกิจกรรมต่างๆทางออนไลน์ได้

หากต้องการเพิ่มลูกค้าเข้ามาในไลน์แอท สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- พริ้นท์ QR code ให้ลูกค้าสแกนจากทางช็อปออฟไลน์ของเรา
- ส่งลิงค์ หรือส่ง recommend ให้กับลูกค้า หรือเพื่อนเราที่เป็นเพื่อนเราในไลน์อยู่แล้ว
- ติดลิงค์ไลน์แอท หรือ QR code ไว้กับหน้าแฟนเพจ เฟสบุ๊ค หรือ หน้าเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ลูกค้าได้แอ๊ดไลน์แอท เข้ามาสอบถามพูดคุยกับเราเพิ่มเติม

เบื้องต้นก็ประมาณนี้เลยค่ะ ไลน์แอทมีประโยชน์ และติดตั้งได้ง่ายมากค่ะ ใครยังไม่มีไลน์แอท ก็ให้ลองโหลดแอ๊พไลน์แอทจากทาง Google Play หรือ App Store โดยคีย์คำว่า Line@ แล้ว down load แอ๊พไลน์แอทมา จากนั้น เราก็จะสามารถล็อกอินเข้า Line@ ได้ด้วย ไลน์ส่วนตัวของเราได้เพื่อที่จะตั้งไลน์แอทของบริษัท หรือของแบรนด์สินค้าเราได้เลยค่ะ

ง่ายมากๆ หากใครต้องการให้สอนการติดตั้งไลน์แอท หรือการตั้งไลน์แอทของแบรนด์ตนเอง ก็แจ้งมาใน comment ถ้ามีคนต้องการพี่ป้อก็จะมาสอนให้ค่ะ

Dr. Por

การตลาดโดยใช้สื่อออนไลน์ Online Media Marketing

Online Media Marketing หรือ Digital Media Marketing

คือ การใช้สื่อออนไลน์ (ดิจิตอล) ในการตลาด ซึ่งทุกวันนี้ที่บอกกันว่าขายออนไลน์นั้นขายดี ใครๆก็ต้องหันมาขายสินค้าออนไลน์กัน เพราะ เราใช้สื่อทางการตลาดออนไลน์ที่มีราคาถูกกว่าสื่อแบบดั้งเดิม อันได้แก่ ทีวี วิทยุ นิตยสาร ฯลฯ

เพราะสื่อออนไลน์ มีราคาถูกกว่า และสามารถวัดผลได้ชัดเจนและง่ายกว่า ทำให้ธุรกิจเล็กๆ SMEs หรือเล็กกว่า SMEs สามารถเติบโตขยายยอดขายกันได้มากกว่า

สมัยก่อนๆ เราต้องใช้สื่อออฟไลน์ต่างๆ ถึงจะเข้าถึงลูกค้าของเราได้ แต่หากเรามีเงินทุนจำกัด หรือเป็นบริษัทเกิดใหม่ บริษัทเล็กๆ หรือแม้บางคนยังไม่ได้จดทะเบียนบริษัท ก็สามารถทำยอดขายออนไลน์กันได้ คือเกิดได้ในโลกออนไลน์

หลายคนต้องแยกให้ออกระหว่างการขายออนไลน์ กับการทำการตลาด (สื่อ) ออนไลน์
การขายออนไลน์อาจเกิดได้จากการที่เราทำการตลาดออนไลน์ หรือออฟไลน์ แล้วคนเข้ามาซื้อสินค้าเราในระบบออนไลน์

การตลาดออนไลน์ หรือใช้สื่อออนไลน์ หมายถึงสื่อที่เรายิงทางโลกออนไลน์ โดยไม่ได้หมายถึงการที่ลูกค้ามาซื้อสินค้าแต่ทางออนไลน์เท่านั้น แต่เราใช้สื่อออนไลน์ในการเข้าถึงลูกค้า ตัวอย่างเช่น ใช้โฆษณาทางเฟสบุ๊ค ส่งสื่อโดยตรงไปที่ลูกค้าเมื่อลูกค้ารับสารแล้วก็มาซื้อสินค้าทางออนไลน์ ทางอินบ็อกซ์ หรือทางเว็บไซต์ หรืออาจจะยังไม่ซื้อทางช่องทางออนไลน์ ถ้าสินค้ามีขายทางช่องทางออฟไลน์ ลูกค้าก็สามารถเสพสื่อทางออนไลน์ แล้ววิ่งไปหาซื้อสินค้าจากทางช่องทางอื่นๆได้ เช่น จากหน้าร้านต่างๆ หรือจากตัวแทนจำหน่ายใกล้ๆตัวลูกค้าก็ได้

สื่อทางออนไลน์เป็นสื่อที่จำเป็นในการส่งสารถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราอย่างมากๆในทุกวันนี้ เพราะทุกคนล้วนแต่ใช้การติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์กันแทบทั้งนั้น ดังนั้นทุกคนควรวางแผนการใช้สื่อออนไลน์ให้เหมาะสมกับการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราให้ได้ และให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มต่อการลงทุนที่สุดนะคะ

สื่อการตลาดออนไลน์ ได้แก่...
- Facebook Fanpage
- Google Ad (Google Adwords)
- Instagram
- Email
- Youtube
- Line, Line@
- Website ต่างๆ ที่เป็น portal web เช่น Sanook, Kapook, pantip, Jeban, LadyIssue, etc.
- other social media ที่แต่ละคนในแต่ละประเทศนิยมใช้กัน

ลองไปศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เราต้องการเข้าถึงกันค่ะ ว่าเค้าใช้อะไรกัน เราก็ไปจัดการด้านการตลาดต่างๆให้สามารถเข้าถึงลูกค้าเราได้ เราก็จะขายสินค้ากันได้นะคะ

ไว้พบกันใหม่ค่ะ ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ อีกเยอะเลยที่ยังอยากเล่าให้ฟังนะคะ

Dr. Por